หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 105

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 105
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 105
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติสร้างความรู้สึก​รับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจน นั่งตามสบายวางกายให้สบายไม่ต้องพนมมือ หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว วางภาระหน้าที่สมมติเราก็วางอยู่ในระดับหนึ่ง ทีนี้เราก็มาหยุดคิด ความคิดที่เกิดจากตัวใจเราก็พยายามหยุด ด้วยการสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเรา ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก ระลึกสร้างความรู้ตัว

ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ ลองดูสิ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออกพวกเราก็ขาดการสนใจกันมากเลยทีเดียว หายใจยาวๆ ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้ากระทบปลายจมูกของเรามีความรู้สึกรับรู้อยู่ ความรู้ตัวตรงนี้แหละ​ในหลักธรรมท่านเรียกว่า ‘สติ’ ถ้ารู้ให้ต่อเนื่องเขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ อันนี้เพียงแค่สร้างให้มีให้เกิดขึ้นเสียก่อนยังเอาไปใช้การยังไม่ได้เลย เพียงแค่สร้างให้ต่อเนื่องก็ยังลุ่มๆ ดอนๆ บางทีก็เผลอ เราก็ต้องพยายาม

ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ พอรู้ตัวปุ๊บตื่นขึ้นมาปุ๊บรู้การหายใจเข้าออกปั๊บ รู้ความปกติของใจ จะรู้ลึกลงไปอีกรู้ความปกติของใจรู้ความสงบของใจ รู้อาการเวลาใจจะเกิด ลึกลงไปอีกจะมีความคิดที่แทรกเข้ามาปรุงแต่งใจอีกนี่แหละเขาเรียกว่าอาการของขันธ์ห้า มีกันทุกคนจะมีมากมีน้อย ความคิดที่พูดขึ้นมาใจของเราเคลื่อนเข้าไปรวมจนเป็นสิ่งเดียวกัน เราก็เลยรู้อยู่ว่าเราคิดเราทำ หลงอยู่ในความคิดตรงนั้นอยู่ อันนี้ต้องขยันหมั่นเพียรสังเกต สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องให้ได้ ถึงจะรู้เท่าทัน รู้ไม่ทันต้นเหตุแล้วก็หยุดแล้วก็ควบคุม เขาเรียกว่า ‘สมถะ’ เข้าไปควบคุม บางครั้งบางคราวเราก็ควบคุมได้ บางครั้งบางคราวเราก็ควบคุมไม่ได้ บางครั้งบางคราวเราก็ตามดู

ถ้ากำลังสติปัญญาของเราแหลมคมเร็วไวขึ้น เราก็จะเห็นลักษณะของวิญญาณลักษณะของใจที่ว่าง ปราศจากกิเลส ปราศจากการเกิด เห็นใจกับอาการของใจคนละส่วนกัน อันนี้ต้องมีความเพียรนะต้องมีความเพียร แล้วก็รู้จักสร้างอานิสงส์สร้างตบะบารมีให้มีให้เกิดขึ้นในกายในใจของเรา เรามีความขยันหมั่นเพียรเพียงพอหรือไม่ เรามีความรับผิดชอบต่อตัวเราต่อส่วนรวม เรามีความจริงใจเรามีสัจจะกับตัวของเราเองหรือไม่ อันนี้ก็ล้วนแต่การเป็นการสร้างตบะสร้างบารมีให้มีให้เกิดขึ้น เราจะไปรีบไปเร่งก็ไม่ได้ เราก็ค่อยทำค่อยเป็นค่อยไป น้อมใจของเราเข้ามาอยู่ในกองบุญของกุศล

แต่ละวันตื่นขึ้นมาเราก็รู้จักสำรวจรู้จักแก้ไข แต่ละวันๆ จากวันเป็นเดือนเป็นปี การเจริญสติการทำความเข้าใจ ละกิเลส ความเสียสละความรับผิดชอบคอยสร้างสะสมไปเรื่อยๆ ถึงโอกาสถึงวาระถึงเวลาก็เต็มเปี่ยม วันนั้นเราก็จะเข้าใจในชีวิตของเรา ก็โชคดีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วก็มีโอกาสได้พบพระพุทธศาสนาอีกด้วย วันเมื่อวานนี้ก็มีลูกลูกหลานหลานทางคณะโรงบาลราชชนนีพากันมา ครูบาอาจารย์ก็พาลูกหลานพาลูกศิษย์ลูกหามาบำเพ็ญบารมีมาสร้างตบะสร้างบารมี ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดี
ครูบาอาจารย์ก็อยากจะให้ลูกศิษย์ลูกหาได้รับความสงบได้รับความสุขในชีวิต ก็มองหาหนทางทุกอย่างทุกวิถีทางในการพร่ำสอนให้มีทั้งภาควิชาการทั้งภาคปฏิบัติ ทั้งความสมัครสมานสามัคคี ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดี พวกนักเรียนก็มีโอกาสมีบุญได้มาศึกษาได้มาเล่าเรียน ได้มาเจอในสถานที่ที่ฝักใฝ่ในบุญในกุศล ในการสร้างคุณงามความดี ครูบาอาจารย์ก็เปิดทางให้ พามาพาศึกษาพาค้นคว้าสอนทั้งทางโลก แล้วก็แนะนำให้เข้ามาศึกษาทางธรรมเพื่อที่จะไปใช้กับชีวิตประจำวัน

พวกเธอก็พยายามทำความเข้าใจ ความสมัครสมานสามัคคีกันเป็นอย่างไร ความเสียสละเป็นอย่างไร การอยู่คนเดียวเป็นอย่างไร การอยู่กับคนหมู่มากเป็นอย่างไร ความไม่เห็นแก่ตัวเป็นอย่างไร ความรับผิดชอบเป็นอย่างไร นี่แหละครูบาอาจารย์ก็พามาฝึก กายวิเวกใจวิเวก การอยู่รวมกันเป็นหมู่เป็นคณะ การมาศึกษาการมาค้นคว้าไม่ใช่ว่าจะเรียนเฉพาะอยู่ที่ในห้อง เราต้องพยายามเรียนชีวิตของเรา ศึกษาชีวิตของเราจะล้นออกไปสู่โลกธรรม เอาไปใช้กับชีวิตให้มีความสงบความสุขทั้งนอกวัดในวั ทั้งที่ทำการทำงาน

การเจริญสติ​ การวิเคราะห์การสำรวจ เราก็ต้องพยายามสร้างสะสมคุณงามความดีตรงนี้ขึ้นไปเรื่อยๆ เราจะไปเร่งว่าต้องให้เรียนจบวันนี้ก็ไม่ได้ ต้องให้ได้ผลวันนี้ก็ไม่ได้ กำหนดกาลเวลามีอยู่ เราก็พยายามศึกษาทำหน้าที่ของเราให้ดี เราเป็นนักเรียนเราตั้งใจเรียนหรือไม่เรามีความรับผิดชอบหรือไม่ อยู่กับหมู่อยู่คณะเราชอบกลั่นแกล้งเพื่อนหรือเปล่า เรามีความเห็นแก่ตัวหรือว่ามีความเสียสละหรือว่ามีความรับผิดชอบ อานิสงส์สิ่งนี้แหละจะเป็นตบะเป็นบารมีสืบทอดต่อไปในวันข้างหน้า นับว่าเป็นสิ่งที่ดีให้พยายามพากันทำ มีโอกาสก็ครูบาอาจารย์ก็พามาวัดมาศึกษา มาสร้างอานิสงส์มาสร้างบุญบารมีกัน

เมื่อวานนี้ก็ทั้งวันช่วยกันเทปูนช่วยกันก่ออิฐถือปูน มาสร้างประโยชน์ให้เกิดประโยชน์พวกเรามาก็พลอยได้รับประโยชน์ คนอื่นมาก็พลอยได้รับประโยชน์ วันนี้ถ้ายังไม่ได้กลับก็ไปต่อยอดให้เสร็จนะ พากันไปต่อยอดในการเทคานทำหลุมบ่อ บ่อขยะบ่อบำบัดกำจัดขยะเพื่อที่จะให้ทำเป็นที่นั่งที่อาศัยที่หลับที่นอนให้เกิดประโยชน์ ในเมื่อโอกาสต่อไปในวันข้างหน้า พวกลูกลูกหลานๆ หรือพวกนักเรียนหรือพวกเธอได้กลับมา ก็จะได้มานั่งมาอาศัยมาพักผ่อน คนมาทีหลังก็จะได้มีความสุข นี่แหละเป็นการสร้างบุญสร้างบารมี ถ้าไม่มีความเสียสละก็ทำไม่ได้ ถ้าไม่มีความสมัครสมานสามัคคีงานใหญ่งานหนักก็ไม่สำเร็จ

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนอยู่ที่บ้านที่ไร่ที่นาที่โรงเรียนเราก็พยายามพากันทำ เดินเข้าโรงเรียนเราก็ได้ประโยชน์ เห็นอะไรเห็นเศษขยะเห็นเศษกระดาษก็ได้เห็นอะไรที่ไม่ดี เราก็พยายามดู เศษแก้วเศษตะปูตามถนนหนทาง เรามองตาเนื้อเรามองเราเห็นเราก็เก็บ ห้องส้วมห้องน้ำ เราเข้าห้องส้วมห้องน้ำห้องไหนไม่สะอาดเราก็ได้ทำความสะอาด ห้องไหนไม่มีน้ำเราก็เปิดน้ำใส่ นั่นแหละเราก็ได้อานิสงส์เราก็ได้บุญ ชอบบางคนก็รักความสะอาดแต่ชอบสกปรกทิ้งมันเกลื่อน อย่างนั้นก็ใช้การไม่ได้ เราก็พยายามช่วยกันเก็บ ไม่ต้องไปกังวลว่าจะเสียเปรียบกิเลสคนโน้นไม่ต้องกังวลว่าจะเสียเปรียบกิเลสคนนี้ เราชนะตัวเราแล้วเราก็จะชนะหมดทุกอย่าง ไม่ใช่ว่าจะไปรอวันเวลาผัดวันประกันพรุ่ง เดี๋ยวเวลาโน่นถึงทำเดี๋ยวลงเวลานี้ถึงทำ

ในหลักธรรมท่านให้ขยันหมั่นเพียรทุกขณะจิตทุกขณะลมหายใจเข้าออกจนเป็นเองโดยไม่ได้สร้าง ขัดเกลากิเลสออกจากจิตจากใจของเราจนเป็นอัตโนมัติ จนไม่มีอะไรที่จะชำระสะสาง เพราะว่าใจของเราอยู่ในความสะอาดความบริสุทธิ์ เหลือตั้งแต่กายเนื้อที่จะดูแลรักษาเขาไปจนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง จนกว่าจะถึงวาระเวลา เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้วนตกอยู่ในกฎของไตรลักษณ์​ กฎของความเป็นจริง อนิจจังทุกขังอนัตตา ความว่างเปล่า

แม้แต่กายของเรามันก็เสื่อมตั้งแต่วันเกิด เกิดขึ้นจนกระทั่งหมดอายุขัยนั่นแหละ เสื่อมขึ้นก็เสื่อมลง คนเราก็ไปด้วยแรงของกรรม เราต้องทำความเข้าใจศึกษาเรื่องกรรม กรรมการกระทำคือภาระหน้าที่การงานการกระทำทั้งด้านรูปธรรมทางด้านนามธรรม ทางด้านจิตใจถ้าเราเข้าใจแล้วเราก็จะมองเห็นชีวิต เราก็รู้จักดำเนินบริหารชีวิตของเราให้อยู่ดีมีความสุข ก็พยายามกันนะ

ทุกคนปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น ขอให้ดำเนินตามคำสอนของพระพุทธองค์ ด้วยการเจริญสติด้วยการเจริญภาวนา ด้วยการสร้างตบะบารมีขัดเกลาหมั่นขัดเกลากิเลสออกจากจิตจากใจของเราไม่ว่ากิเลสหยาบกิเลสละเอียด กิเลสนี้มีมาทีหลัง เพราะว่าเดิมแท้นั้นจิตของทุกคนสะอาดบริสุทธิ์ จิตหลงมาถึงได้มาเกิดมาเกิดอยู่ในภพของมนุษย์ แล้วก็ถ้ากายเนื้อแตกดับเขาก็ต้องไปเกิดต่อ ถ้าตราบใดที่ใจยังเกิดอยู่ ถ้าการเกิดของใจยังมีก็ขอให้เกิดอยู่ในกองบุญกองกุศล อยู่ในอานิสงส์แห่งคุณงามความดี ไปอยู่ที่ไหนก็จะไม่ได้ตกอับ

เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันนะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง